วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

การตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย

 สำหรับการตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย  มีรูปแบบการตั้งถิ่นฐาน 3 แบบ

1. รูปแบบการตั้งถิ่นฐานแบบรวมศูนย์ (Cluster Settlement)  เป็นรูปแบบการตั้งถิ่นฐานเก่าแก่ของไทยอันเนื่องมาจากความสะดวกตามธรรมชาติ  เช่น  เกิดตามแหล่งน้ำ  แหล่งแร่  และที่เพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์  หรือตามเส้นทางคมนาคม  มีอาคารบ้านเรือนหลายหลังสร้างล้อมรอบ บ่อน้ำ  ตลาด  วัด  โรงเรียน  หรือบ้านของผู้นำ  ต่อมาเมื่อจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น จะมีการขยายตัวเป็นกลุ่มออกจากศูนย์กลางอย่างชัดเจน  หมู่บ้านดังกล่าวพบมากในเขตภาคเหนือ  และภาคกลางตอนบน  ส่วนภาคใต้พบตามแหล่งแร่ทั่วไป  ลักษณะของหมู่บ้านแบบรวมศูนย์  หรือเกาะกลุ่มไม่มีขอบเขตที่แน่นอน  นอกเหนือจากจะยึดเอาปัจจัยทางธรรมชาติ  ไว้เป็นตัวกำหนดขอบเขตอย่างหยาบๆ  เช่น  แนวคลอง  ทิวไม้  หรือสิ่งกีดขวางทางธรรมชาติ  เป็นต้น รูปแบบการตั้งถิ่นฐานแบบรวมศูนย์ นอกจากจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณลักษณะทางสังคม ประเพณี  วัฒนธรรมแล้ว  ยังบ่งชี้ถึงความต้องการความปลอดภัย  อันเนื่องมาจากการรวมกลุ่มกัน และการประหยัดพื้นที่เพาะปลูกไว้สำหรับหมู่บ้านด้วยเช่นกัน


2. รูปแบบการตั้งถิ่นฐานแบบกระจัดกระจาย (Scattered Settlement) รูปแบบนี้จะเป็นไปในลักษณะของการตั้งถิ่นฐานของตัวบ้าน ที่ตั้งอยู่กระจัดกระจายจากกัน อยู่โดดๆ  โดยถ้าเป็นหมู่บ้านอาจมีจำนวนหลังคาเรือนน้อยมาก  โดยมากจะตั้งกระจัดกระจายกันไปตามไร่นา  สวน  เป็นต้น  มีศูนย์บริการชุมชน ได้แก่  วัด  โรงเรียน  สถานีอนามัย  ห่างจากที่พักอาศัย  ลักษณะรูปแบบเกิดจากสภาพสังคมที่ชอบอยู่โดดเดี่ยว  พวกที่จับจอง บุกรุกที่ดิน  เพื่อความสะดวกในการประกอบอาชีพทางด้านเกษตรกรรม  เป็นต้น  หมู่บ้านรูปแบบนี้พบมากทางภาคกลางตอนล่าง  และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ตลอดจนภาคใต้ ตามสวนยาง สวนมะพร้าว และสวนผลไม้   โดยทั่วไปรูปแบบการตั้งถิ่นฐานแบบกระจัดกระจายนี้จะมีความสัมพันธ์กับไร่นา  หรือพื้นที่เกษตร กับระยะทางที่ต้องเดินทางไปประกอบอาชีพที่ต้องไม่ไกลจากที่อยู่อาศัย   รูปแบบการตั้งถิ่นฐานแบบากระจัดกระจาย เป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาวะการขาดแคลนพื้นที่เพาะปลูก  เช่น บริเวณที่ราบสูง  และปัญหาการเสื่อมโทรมของพื้นที่ดิน  เป็นต้น

3. รูปแบบการตั้งถิ่นฐานแบบแนวเส้นตรง (Line Settlement)   เป็นรูปแบบที่มีการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนตามแนวริมน้ำ ชายฝั่งทะเล หรือตามแนวเส้นทางคมนาคม รูปแบบดังกล่าวพบมากบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลำน้ำต่างๆ  ส่วนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบตามลุ่มน้ำ มูล และชี  สำหรับภาคตะวันออกพบตามแนวชายฝั่งทะเล  หรือในระยะที่มีพัฒนาการของการสร้างเส้นทางคมนาคม  เช่น ถนน  ทางรถไฟ  จะพบชุมชนตามแนวเส้นทางเหล่านี้เช่นกัน

         รูปแบบการตั้งถิ่นฐานแบบแนวเส้นตรง  หรือแนวยาว  มักมีบทบาทของชุมชนที่เน้นไปทางด้านบริการเล็กๆ น้อยๆ  ที่เกี่ยวเนื่องด้วยการเกษตร และการค้าและบริการ  เป็นต้น

         อย่างไรก็ตามในด้านการศึกษารูปแบบการตั้งถิ่นฐานนอกจากจะพิจารณาด้านความหนาแน่น  การจัดวางรูปแบบ  แล้วยังต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์โดยตรงกับลักษณะทาง เศรษฐกิจ  และวัฒนธรรมด้วย  โดยสัณฐานของการตั้งถิ่นฐานมิได้มีความหมายในตัวของมันเองเท่านั้น  แต่ยังเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตเป็นอย่างมาก   ความสำคัญของทุกรูปแบบที่กล่าวมาเป็นรูปแบบการตั้งถิ่นฐานของประเทศไทยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  มิได้เกี่ยวข้องกับการวางแผนแต่อย่างใด  ซึ่งจากความสำคัญของรูปแบบดังกล่าว  ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เป็นอุปสรรค  หรืออำนวยความสะดวก  ที่จะเอื้ออำนวยต่อการนำมาปรับปรุงวางแผนชุมชนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะได้กล่าวถึงในเนื้อหาต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น